วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559



บันทึกการเรียนครั้งที่ 4
วันจันทร์ ที่ 29 สิงหาคม 2559
เวลา 08.30-11.30น.

ความรู้ที่ได้รับ

เกมการสื่อสาร
  1. เกมสื่อความหมาย : ตัวแทน 1 คน อ่านประโยคและทำท่า ส่งต่อจนครบ 5 คน
  2. เกมทายคำ: ตัวแทน 1 เป็นคนใบ้ 2 เป็นคนทาย 3 เป็นคนชูคำด้านหลัง
  3. เกมพรายกระซิบ : ตัวแทน 1 คน จำประโยค และบอกต่อจนครบ 5 คน 
  4. เกม ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร่ อย่างไร กับใคร : ตัวแทน 6 คน เขียน คนละ 5 ข้อ



ความหมายของการสื่อสาร

การสื่อสาร  (Communication) : คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา

ความสำคัญของการสื่อสาร
  • ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม 
  • ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
  • ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
  • ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
  • ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
รูปแบบของการสื่อสาร
  • รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล (Aristotle’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล (Lasswell’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm’s )
  • รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล (Berlo’s Model of Communication) 
  • รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล (Aristotle’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล (Lasswell’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver’s Model of Communication)
  • รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm’s )
  • รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล (Berlo’s Model of Communication) 
องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
2. ข้อมูลข่าวสาร (Message)
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
5. ความเข้าใจและการตอบสนอง

สื่อ : ใช้วิธีพูด เขียน หรือการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน  คลื่นวิทยุโทรทัศน์ ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อหลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียน การสอน ต้องใช้ทั้งหนังสือ กระดาน ภาพสาร : คือ เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น  ข้อเท็จจริง  ข้อแนะนำ  การล้อเลียน  ความปรารถนาดี  ความห่วงใย  มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ  และสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม

วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
1. เพื่อแจ้งให้ทราบ
2. เพื่อความบันเทิงใจ
3. เพื่อชักจูงใจ

เกณฑ์ในการจำแนกประเภทการสื่อสาร 3 ประการ คือ 
1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร 
2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก 
3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร

1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 
  • การสื่อสารทางเดียว : การสื่อสารที่ข่าวสารจะถูกส่งจากผู้ส่งไปยังผู้รับในทิศทางเดียว 
  • การสื่อสารสองทาง : การสื่อสารที่มีการส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้สื่อสาร
2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก
  •  การสื่อสารเชิงวัจนะ : การสื่อสารด้วยการใช้ภาษาพูด หรือเขียนเป็นคำพูด 
  • การสื่อสารเชิงอวัจนะ : การสื่อสารโดยใช้รหัสสัญญาณอย่างอื่น เช่น ภาษาท่าทาง 
ขอบข่ายครอบคลุมลักษณะการสื่อสารของมนุษย์ 3 ลักษณะ คือ
3.1 การสื่อสารส่วนบุคคล (Intrapersonal Communication)
3.2 การสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication)
3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

การสื่อสารกับตนเอง
  • การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
  • การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
  • เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกัด
  • บางครั้งมีเสียงพึมพำดังออกมาบ้าง
  • บางครั้งเกิดความขัดแย้งในใจและไม่อาจตัดสินใจได้
  • อาจเป็นการปลอบใจตนเอง การเตือนตนเอง การวางแผน หรือแก้ปัญหาใดๆ
การสื่อสารระหว่างบุคคล
  • บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม
  • เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคล อาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
  • อาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น
  • สารที่สื่ออาจเปิดเผยหากมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่น
การสื่อสารสาธารณะ
  • มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน
  • มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์ ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
  • เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา
  • เช่น การบรรยาย การปาฐกถา  การอมรม การสอนในชั้นเรียน
  • การสื่อสารมวลชน
ลักษณะสำคัญคล้ายการสื่อสารสาธารณะ
  • ต้องอาศัยสื่อที่มีอำนาจการกระจายสูง รวดเร็ว กว้างขวาง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดาวเทียมและสื่อมวลชน
  • ต้องคัดเลือกเฉพาะข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นที่เห็นว่าควรนำเสนอ
  • อาจสนองความต้องการและความจำเป็นของมวลชนมากหรือน้อยได้
การสื่อสารในครอบครัว
  • เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของมนุษย์
  • ประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับความตั้งใจดีของสมาชิกในครอบครัว
  • คุณธรรมที่ดีงามในครอบครัวจะช่วยพัฒนาการสื่อสารไปในทางดีงามเสมอ
  • ต้องยอมรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
  • คนต่างรุ่นต่างวัยในครอบครัวต้องพยายามทำความเข้าใจให้ตรงกัน
  • ควรคำนึงถึงมารยาทที่ดีงามอยู่เสมอ
การสื่อสารในโรงเรียน
  • ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารกับบุคคลที่คุ้นเคย
  • เนื้อหามักเกี่ยวกับวิชาการ พื้นฐานอาชีพและหลักการดำเนินชีวิต
  • มีทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารในกลุ่มและการสื่อสารสาธารณะ
  • อาจใช้เวลานานเพราะเรื่องราวมีปริมาณมาก
  • อาจมีโอกาสโต้แย้งถกเถียง ควรยอมรับข้อเท็จจริงและไม่ใช้อารมณ์
  • ข้อเท็จจริงและข้อสรุปบางเรื่องไม่ควรนำไปเผยแพร่
  • ควรระมัดระวังคำพูดและกิริยามารยาท
  • คุณธรรมด้านความซื่อสัตย์และการยอมรับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญ
การสื่อสารในวงสังคมทั่วไป
  •  เริ่มด้วยการทักทายตามสภาพของสังคมนั้นๆ
  •  การแสดงความยินดีหรือเสียใจ ไม่ควรมากหรือน้อยจนเกินไป
  •  การติดต่อกับคนที่ไม่รู้จักมาก่อนควรพูดให้ตรงประเด็นและสุภาพพอควร
  •  การคบหากับชาวต่างประเทศ ควรศึกษาประเพณีและมารยาทที่สำคัญๆของกันและกัน
ธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
  • ออเออร์บาค (Auerbach,1968) ได้กล่าวถึงธรรมชาติของผู้ปกครองไว้ดังนี้
  • ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้
  • ผู้ปกครองมีความต้องการที่จะเรียนรู้
  • ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุดในสิ่งที่เขาสนใจ
  • การเรียนรู้จะมีความหมายที่สุดก็ต่อเมื่อเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวของผู้ปกครอง
  • การมีอิสระในการเรียนรู้จะทำให้ผู้ปกครองเรียนรู้ได้ดีที่สุด
  • ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้จากกันและกัน
  • การให้ความรู้กับผู้ปกครองถือเป็นการให้ประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ปกครอง
ธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
  • เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
  • มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
  • เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
  • ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
  • เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย
พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
  • ความพร้อม  คือ สภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้
  • ความต้องการ คือ ความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข 
  • อารมณ์และการปรับตัว คือ  แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทั้งทางบวกและลบ  
  • การจูงใจ คือ การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ 
  • การเสริมแรง คือ การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง เช่น คำชมเชย รางวัล
  •  ทัศนคติและความสนใจ คือ การที่บุคคลมีการตอบสนองและแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่างๆ 
  • ความถนัด คือ ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร
  • ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี เช่นใช้ภาษาที่อยากแก่การเข้าใจ หรือไม่เหมาะแก่ผู้รับ
  • ข้อมูลข่าวสารมากเกินไป
  • ได้ข่าวสารไม่ครบสมบูรณ์ ทำให้สื่อความหมายผิดๆ
  • ข้อมูลที่ส่งไปผ่านหลายขั้นตอน
  • เลือกใช้เครื่องมือในการส่งข่าวสารไม่เหมาะสม
  • รีบเร่งด่วนสรุปข่าวสารเร็วเกินไป ขาดการไตร่ตรอง
  • ผู้รับข่าวสารไม่ทบทวน หรือสอบถามให้เข้าใจเมื่อสงสัย
  • อารมณ์ของผู้รับ หรือผู้ส่งอยู่ในสภาพไม่ปกติ
  • ผู้ส่งหรือผู้รับมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
7 C กับการสื่อสารที่ดี
  • Credibility ความน่าเชื่อถือ 
  • Content เนื้อหาสาระ 
  • Clearly ความชัดเจน 
  • Context ความเหมาะสมกับโอกาส 
  • Channel ช่องทางการส่งสาร 
  • Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน 
  • Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร
คุณธรรมในการสื่อสาร
  • คุณธรรม คือ ความดีงามที่มีอยู่ในตัวบุคคล
  • ต้องประกอบด้วยเหตุผลที่ดีของแต่ละบุคคล
  • เกิดจากการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก
  • เกิดจากการได้เห็น ได้ยิน ได้อ่าน
  • เกิดจากการได้เห็นพฤติกรรมของคนที่เคารพรักเป็นแบบอย่าง
  • ความมีสัจจะและไม่ล่วงละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน
  • ความรัก ความเคารพและความปรารถนาดีต่อกัน
  • ความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูดหรือกระทำ
พฤติกรรมด้านนอกของการสื่อสาร หมายถึงพฤติกรรมที่ปรากฏให้เห็นชัดเจน เช่นกิริยาอาการ  การเปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ  การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรรวมทั้ง รูปภาพ แผนภูมิและการใช้วัตถุต่างๆ
  • เป็นกิริยาวาจาที่เรียบร้อยถูกต้องตามคตินิยมของสังคม
  • วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง
  • ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง
  • พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา และหาแนวทางตอบสนองตามความเหมาะสม
  • พูดคุย พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ
  • หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง
  • ทำตนให้กลมกลืนกับผู้ปกครอง
  • มีท่าทีเป็นมิตรอยู่เสมอ
  • เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม



คำถามท้ายบท
1. จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ 
  • ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม 
  • ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
  • ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
  • ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
  • ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
2. การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความศรัทธา เชื่อมั่นและมีความอบอุ่นว่าสถานศึกษาจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง บ้านโรงเรียน ชุมชนและสังคมเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเด็กร่วมกัน

3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ 

4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ 
  • เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
  • มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
  • เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
  • เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
  • ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
  • เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย
5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
ตอบ  
  • ความพร้อม  คือ สภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้
  • ความต้องการ คือ ความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข 
  • อารมณ์และการปรับตัว คือ  แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทั้งทางบวกและลบ  
  • การจูงใจ คือ การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ 
  • การเสริมแรง คือ การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง เช่น คำชมเชย รางวัล
  • ทัศนคติและความสนใจ คือ การที่บุคคลมีการตอบสนองและแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่างๆ 
  • ความถนัด คือ ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถนำเกมไปใช้สำหรับเข้าสู่บทเรียน
- สามารถนำวิธีการเรียนรู้พฤติกรรมผู้ปกครองไปใช้ในการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ในอนาคต
- สามารถใช้ทฤษฏีมาอ้างอิงพฤติกรรมผู้ปกครองเพื่อการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับเด็กให้ผู้ปกครองได้เข้าใจอย่างถูกต้อง

ประเมินผล
ตนเอง : ร่วมกิจกรรมและเกมที่อาจารย์นำมา สนุกสนานมาก
เพื่อน : ร่วมกิจกรรมกันอย่างตั้งใจ มีความสุข สนุกสนาน บางกลุ่มอาจมาสาย
อาจารย์ : มีเกม กิจกรรม ให้มีส่วนร่วมทั้งชั้นเรียน บรรยากาศ สนุกสนาน น่าเรียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น